ไพฑูรย์ สินลารัตน์ (2534 : 3) กล่าวว่า ในส่วนนี้ผู้เขียนโครงร่างการวิจัย ควรเขียนอธิบายถึงประวัติความเป็นมาที่ทำให้ผู้วิจัยเห็นความสำคัญของปัญหาหรือหัวข้อที่จะทำการวิจัย โดยกล่าวเน้นถึงประเด็นสำคัญ ๆที่จำเป็นที่มีส่วนเกี่ยวพันกับปัญหาที่จะทำการวิจัยโดยตรง ทั้งนี้ควรจะให้ข้อมูลอ้างอิงตามความเหมาะสมด้วย
รวีวรรณ ชินะตระกูล (2540 : 6) กล่าว่วา ผู้วิจัยจะต้องกำหนดประเด็นปัญหา และความสำคัญของปัญหาที่ต้องการศึกษาในการวิจัยให้ชัดเจน การกำหนดปัญหาที่ต้องศึกษาในการวิจัยให้ชัดเจน การกำหนดปัญหาไว้อย่างชัดเจนช่วยในการวางแผนงานวิจัยได้อย่างดี ในการเขียนควรกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ทำวิจัย เพื่อนำไปสู่วัตถุระสงค์ที่ทำการวิจัย ดังนั้นการเขียนไม่จำเป็นต้องเขียนให้ยืดยาวจนเกินไป
เก่ง ภูวนัย (http://blog.eduzones.com/jipatar/85921) กล่าวว่า เริ่มจากการเขียนปูพื้นโดยมองปัญหาและวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้ ได้อย่างไร
สรุป
ความสำคัญและที่มาของปัญหา คือ การเขียนควรกล่าวถึงข้อมูลพื้นฐานและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ทำวิจัย และวิเคราะห์ปัญหาอย่างกว้างๆ ก่อนว่าสภาพทั่วๆไปของปัญหาเป็นอย่างไร และภายในสภาพที่กล่าวถึง มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง ประเด็นปัญหาที่ผู้วิจัยหยิบยกมาศึกษาคืออะไร ระบุว่ามีการศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาแล้วหรือยัง ที่ใดบ้าง และการศึกษาที่เสนอนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่า ต่องานด้านนี้ ได้อย่างไร เพื่อนำไปสู่วัตถุระสงค์ที่ทำการวิจัย ดังนั้นการเขียนไม่จำเป็นต้องเขียนให้ยืดยาวจนเกินไป
ที่มา
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2534). การวิจัยทางการศึกษา.การวิจัยทางการศึกษา : หลักและวิธีการสำหรับนักวิจัย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
รวีวรรณ ชินะตระกูล . (2540) . โครงร่างวิจัย. กรุงเทพ ฯ : โรงพิมพ์ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาพพิมพ์.
เก่ง ภูวนัย. (ออนไลน์). เข้าได้จาก : http://blog.eduzones.com/jipatar/85921. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น